#เสพติดชูก้า 11 - บำบัด
.
เสียงเฉอะแฉะของการบดเบียดกันของสองริมฝีปากดังแข่งกับเข็มนาฬิกา
คล้ายนับถอยหลังว่าความอดทนของคิมซอกจินจะหมดลงเมื่อไร
แต่จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหว...
มือหนาประคองบั้นท้ายของอีกฝ่ายแล้วอุ้มไปทิ้งลงบนโซฟา
ปากยังคงไม่ละออกจากกันราวกับโหยหาสัมผัสนี้มานานแสนนาน
ใช่... ซอกจินรอเวลานี้มาเนิ่นนาน
เมื่อก่อน เคยทำได้แค่จูบเบาๆ ที่มือแต่ตอนนี้ถูกเสนอให้ทำมากกว่านั้น
ขั้นสุดของการแอบมองอยู่ห่างๆ คือได้ครอบครองและ ณ เวลานี้
ความใฝ่ฝันนั้นกำลังจะเป็นจริง
ยอดพีรมิด... กำลังนอนอยู่ใต้ร่างของเขา
ร่างขาวเผือดช่วงล่างเปลือยเปล่าพร้อมใบหน้าและกระจับปากแดงก่ำ
ดวงตาเรียวรีนั้นหรี่ปรือราวกับกำลังเชิญชวน
เสื้อตัวใหญ่ดูเกะกะเกินไปจนต้องถอดออก
ขาวจนตาแทบพร่า
หน้ามืดตามัวจนต้องรั้งเอาร่างเล็กกว่าให้เกี่ยวกระหวัดขาไว้ที่เอวสอบ
เมื่อไม่อาจต้านทานความต้องการไหว ซอกจินโน้มหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปาก สูดดมกลิ่นหอมจากผิวแก้ม
เคลื่อนไปลิ้มรสใบหู ไล่ลงมาที่ซอกคอ
จะจูบตรงไหนก็ได้ ขบกัดยังไงก็ได้
ทำอะไรด้วยก็ได้...
“อ่ะ...” ชูก้าส่งเสียงเบา ตกใจเมื่อซอกจินเคลื่อนตัวลงต่ำ
ใช้ฟันงับยอดอกสีฉ่ำเต่งตึง มือหนาทั้งสองข้างบีบเฟ้นบั้นท้ายกลมกลึงเปลือยเปล่า
ริมฝีปากอิ่มเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ในทุกกระเบียดที่เรียวลิ้นลากผ่านต้องฝากรอยแดงเอาไว้
เลียไล้ ขบกัดคล้ายอยากจะกลืนกิน
อา... ชูก้า... ชูก้าของเขา อร่อยเหมือนที่คิดจินตนาการไว้ไม่มีผิด
คนตัวเล็กกว่าถูกจัดแจงให้นั่งพิงพนักโซฟาแม้ว่าตอนนี้ร่างกายจะอ่อนปวกเปียก
เรียวขาพาดผ่านช่วงไหล่กว้างของคนที่อยู่ต่ำกว่า ซอกจินยังไม่หยุดเลียลิ้มชิมรสชาติอีกฝ่าย
ดูดดุนไปยังผิวกายขาวจนขึ้นสีกุหลาบแทบทั้งตัวแม้แต่ต้นขาที่ใกล้จุดหมิ่นเหม่ที่แข็งขืนขึ้นมาอีกรอบ
ไม่เว้นแม้แต่ช่องทางสีหวาน
ที่กดจูบลงไปแบบไม่ลังเลก่อนจะแลบเลียให้ชุ่มฉ่ำท่ามกลางชูก้าที่บิดเร่าร่างกายเพราะความซ่าบซ่าน
“อืม... เจ็บ...” พึมพำเสียงเบาเมื่อซอกจินเริ่มสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางเล็กเพียงหนึ่งนิ้ว
อีกฝ่ายชะงัก เงยหน้ามองชูก้าที่หน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะเอื้อมตัวขึ้นไปกดจูบเบาๆ
ที่ริมฝีปากคล้ายจะปลอบประโลมเพราะรู้ว่าหนทางข้างหน้ามันคงรุนแรงเกินไปสำหรับคนที่เจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก
“ขอโทษครับ ผมจะทำเบาๆ”
พูดออกไปอย่างนั้นแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางทำได้
ตามนิสัยของจิตแพทย์ที่ต้องทำให้ผู้คนสบายใจเพราะตอนนี้เขาเริ่มสอดนิ้วที่สองเข้าไปแล้ว
การทำให้ช่องทางนั้นขยายเพื่อพร้อมรับอะไรที่ใหญ่ยิ่งกว่านิ้วมันคือความใจดีที่เขามีให้ชูก้า
เรียกร้องเอง อยากให้เขาทำเองแล้วจะมางอแงทีหลังไม่ได้หรอก
เพราะเขาจะไม่หยุด ไม่มีทางหยุด
หยุดไม่ได้แล้ว
“อึก... มัน... มันเจ็บ...”
ประท้วงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อซอกจินขยับนิ้วมากขึ้น
เตรียมแทรกนิ้วที่สาม “อย่าเกร็งครับ”
“ไม่... ไม่ไหว... มันเจ็...”
มือข้างที่ว่างรั้งบั้นท้ายของชูก้าที่จะขยับตัวหนีเอาไว้ คิ้วหนาขมวดมุ่นคล้ายไม่พอใจ
สบสายตากับชูก้าด้วยความขุ่นเคือง
“ผมไม่ให้คุณหนีนะ” ยื่นคำขาดเสียงเข้มก่อนจะลุกขึ้นจับชูก้าคุกเข่า
นิ้วยังไม่ละออกจากช่องทางเล็ก
มืออีกข้างกอบกุมส่วนกลางที่ชูชันของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วเริ่มนวดคลึงให้คลายความเจ็บจากด้านหลัง
และเหมือนจะได้ผลเมื่อคนถูกกระทำครางกระเส่าซบหน้าลงไปกับหมอนใบใหญ่เพื่อกักเก็บเสียงน่าอายแต่ซอกจินกลับโน้มตัวไปดึงมันออก
เขาอยากได้ยิน... อยากฟังเสียงน่าอายที่เกิดจากเขา
“ดังๆ ครับ” กระซิบข้างหู ขบเบาๆ เพื่อเพิ่มความวาบหวิว
ได้ยินมาว่าพวกนักร้องจะมีประสาทหูดีกว่าคนอาชีพอื่น เพราะงั้นจุดรวมความรู้สึกก็จะอยู่ตรงนี้
แน่นอนว่าชูก้าตัวสั่นไหวไม่รู้ว่าเพราะส่วนหลังที่ถูกกระตุ้น
ส่วนหน้าที่คล้ายจะปลดปล่อยอยู่รอมร่อหรือเพราะใบหูที่โดนหลอกล้อกันแน่
“อื้อ...”
“ดังอีกครับ” ว่าแล้วก็ไล้จมูกไปตามซอกคอขาวอีกครั้ง
อ้าปากงับลาดไหล่เนียน ขบกัดจนขึ้นรอยแดงไม่ต่างจากจุดอื่น
มือข้างที่กอบกุมส่วนแข็งขืนของชูก้าเอาไว้ก็ขยับไปมาจนส่วนปลายมีน้ำสีใสหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ
ถึงได้หยุดมือเพราะรู้ว่าจะทำให้อีกฝ่ายทรมานและร้องขอมากกว่าเดิม
แต่ตอนนี้ คนที่จะทรมานน่าจะเป็นคิมซอกจินซะมากกว่า
แผ่นหลังขาวผ่อง ก้นกลมที่อยู่ตรงหน้า
ทุกสิ่งอย่างในสายตาทำให้เขาขาดความยับยั้งชั่งใจใดๆ
ก็อยากจะอ่อนโยนให้ได้มากที่สุด แต่ความเป็นมินชูก้าบังคับให้เขาต้องรุนแรง
รอมาตั้งนาน เขาเฝ้ารอมาตั้งนาน
และจะไม่ปล่อยเวลาให้เลยผ่านอีกต่อไปแล้ว
ซอกจินดึงกางเกงตัวเองลงมา
ถอนนิ้วออกจากช่องทางเล็กก่อนจะคว้าเอาส่วนกลางที่ขึงขังทาบไปกับบั้นท้ายอีกฝ่าย
เสียดสีมันไปมาเหมือนอยากให้ชูก้าทำใจว่าต่อไปนี้จะเป็นของจริง
“อย่าเกร็งนะครับ” โน้มตัวลงไปกระซิบอีกรอบ กดจูบบนแก้มเนียนอีกหน
มือก็ค่อยๆ กดความใหญ่โตของตนเองลงไป...
!!!
มินชูก้าสะดุ้งเฮือกใหญ่
เผลอส่งเสียงออกมาพร้อมกับขยับตัวหนีแต่ก็โดนคิมซอกจินรั้งเอาไว้ พยายามสอดใส่ส่วนแข็งขืนลงไป
มือหนาก็นวดเค้นบั้นท้ายให้คลายความเกร็งจนก้นขาวๆ เต็มไปด้วยรอยแดง
ซอกจินนิ่วหน้าเมื่อความคับมันบีบรัดจนเขาแทบขยับไม่ได้แต่ก็ไม่อาจถอนตัวเพราะโดนความคับแน่นนั้นดูดกลืนไว้เช่นกัน
อา... ชูก้า... ชูก้าของเขา
เขากำลังอยู่ในตัวชูก้า ชูก้ากำลังโอบรัดเขาอยู่
ไม่มีอะไรจะสุขสมมากไปกว่านี้อีกแล้ว
ไม่มีอีกแล้ว
“เจ็... เจ็บ...” แม้ชูก้าจะเอ่ยท้วง พยายามขืนตัวหนีแต่ซอกจินก็ยังไม่หยุด
กัดฟันกรอดและพยายามฝืนตัวเองเข้าไป ไม่หยุดแม้อีกฝ่ายจะมีเลือดออกมา “เจ็บ!”
เมื่อคนใต้อาณัติโวยวาย ซอกจินเอื้อมมือไปปิดปากเอาไว้
“เดี๋ยวก็หายครับ”
“อ๊ะ!!”
หวีดเสียงหลงเมื่อโดนยกขึ้นนั่ง
ความใหญ่โตที่เคยใส่เข้าไปอย่างยากลำบากตอนนี้ถูกกลืนเข้าไปจนสุด
ซอกจินครางเสียงต่ำด้วยความพอใจต่างจากชูก้าที่นิ่วหน้าเพราะพยายามกลั้นน้ำตา
เจ็บ... เจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
จุก... จุกเกินกว่าจะหายใจ
ตอนใช้ปากให้ก็รู้ว่าใหญ่ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
“อย่า... อย่าเพิ่งขยับ...”
“ทำไมล่ะครับ” ถามเสียงแผ่วขณะไล้จมูกไปกับลำคอของคนที่นั่งอยู่บนตัก
พรมจูบลงบนต้นคอและแผ่นหลังไม่ห่าง มือก็ไม่หยุดฟอนเฟ้นก้นงอนและช่วงเอวเพื่อหวังว่าจะคลายความเจ็บปวด
ก่อนจะค่อยๆ จับชูก้าให้นอนลงบนโซฟาทั้งๆ ที่ช่วงล่างยังเชื่อมต่อกันอยู่
อยากขยับใจจะขาด อยากปลดปล่อยใจจะขาด อยากกระทำย่ำยีใจจะขาด
อยากทำให้ชูก้าครวญครางเยอะๆ ร้องขอเยอะๆ ต้องการเขาเยอะๆ
ริมฝีปากอิ่มประทับรอยรักสีกุหลาบทั่วหน้าอกอีกฝ่ายไม่หยุด
สะโพกก็ค่อยๆ ขยับเข้าออกในจังหวะเนิบนาบเพื่อให้ชูก้าชินชาและดูเหมือนว่าจะเริ่มชาชินเมื่อเริ่มส่งเสียงครวญครางเพราะความซาบซ่านไม่ใช่เพราะความเจ็บเสียด
“คุณเป็นคนอยากทำเองนะ”
“อา... แต่ก็อย่ารุนแรง... ได้ไหมล่ะ... อ่ะ”
ได้ยินแบบนั้น ซอกจินก็ยิ้มกริ่ม สอดแขนเข้าไปใต้ร่างคนตัวเล็กกว่าก่อนจะยกขึ้นมาให้ทับบนหน้าตัก
ชูก้าขบริมฝีปากแน่นเมื่อความใหญ่โตภายในสะกิดจุดกระสันมากกว่าเดิม “งั้นจัดการเลยครับ”
“ฮะ?”
ซอกจินยกยิ้ม
สบตากับชูก้าที่ประจันหน้ากันอยู่ในท่าทางที่โคตรจะหน้าอาย
จะหนีก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายโอบเอวไว้แน่นแถมยังแกล้งเขาด้วยการขยับไปมาไม่หยุด
“อยากได้แบบไหนล่ะครับ ขยับเองเลย”
ได้ยินแบบนั้นใบหน้าก็แดงซ่านมากกว่าเดิม
ขบเม้มริมฝีปากคล้ายไม่รู้จะทำยังไงในสถานการ์แบบนี้ ถ้าไม่ทำอารมณ์ก็จะค้าง
แต่ถ้าทำ... มันก็จะดูน่าอาย
และดูเหมือนซอกจินจะรู้ว่าชูก้าคิดอะไรเลยเริ่มยกสะโพกอีกฝ่ายขึ้นแล้วขยับด้วยตัวเอง
“อ่ะ... ซอก...”
“ผมนำ คุณตาม”
ชูก้าขบกราม เผลอส่งเสียงน่าอายบ่อยครั้งเพราะจังหวะของคนตรงหน้า
ความอุ่นร้อนในตัวทำเขาแทบบ้าเมื่อกระแทกกระทั้นไปโดนจุดกระสัน
ไหนจะยังส่วนแข็งขืนของเขาที่ชูชันจนน้ำสีใสล้นปริ่ม อา... ไม่ไหว...
ต้องทำให้จบก่อนจะทรมานไปมากกว่านี้
ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องขยับไปตามเกมส์
ซอกจินยิ้มกริ่มมากกว่าเดิม โอบกอดชูก้าเข้ามาในอ้อมแขนยิ่งกว่าเดิม
ส่งเสียงครวญครางดังประสานเมื่อโดนอีกฝ่ายขบเม้มเข้าที่ช่วงไหล่
เรียวเล็บจิกลงไปยังบนแผ่นหลังผ่านเนื้อผ้าจนน่าจะเป็นรอยถลอก
คิ้วหนาขมวดมุ่น เมื่อเริ่มจะถึงฝั่งเลยจับอีกฝ่ายนอนลงและเร่งจังหวะด้วยตนเอง
ไม่สนว่าจะรุนแรงแค่ไหน ไม่แคร์ว่าอีกฝ่ายจะข่วนหลังตัวเองมากเท่าไร
ชูก้าสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อรู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นร้อนที่คุกรุ่นภายในช่องท้องพร้อมกับอีกคนที่เคลื่อนสะโพกด้วยจังหวะเนิบนาบ
หายใจหอบหนักก่อนจะซบหน้าลงกับแผ่นอกของเขา
แต่คงเพราะชูก้าเพิ่งจะปลดปล่อยไปครั้งนี้เลยนานกว่าที่คิด
ซอกจินค่อยๆ ถอนตัวออกมาพร้อมของเหลวสีขุ่น ริมฝีปากยังคงไม่หยุดพรมจูบไปทั่วตัวอีกฝ่ายด้วยความหลงไหลแบบไม่มีที่สิ้นสุดแถมยังต่ำลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงจุดอ่อนไหวที่แข็งขืน
!!!
สะดุ้งตกใจเมื่อซอกจินใช้โพรงปากครอบครองมันเอาไว้
ดวงตาเรียวรีเบิกโพลงก่อนจะค่อยๆ
หรี่ปรือเมื่อเรียวลิ้นร้อนของอีกฝ่ายเกี่ยวกระหวัดอย่างรู้งาน
คล้ายคนกระหายน้ำที่ไม่รู้จักพอ เมื่อได้โอกาสตักตวงก็ไม่มีทางจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
เมื่อชูก้าจะถึงจุดสูงสุดก็ประวิงเวลา ไม่สนแม้ว่าอีกฝ่ายจะจิกทึ้งกลุ่มผมเขาเพราะความทรมานมากเท่าไร
อยากดูดดุน อยากกลืนกินให้สาสมกับเวลาที่เขาต้องเสียไป
ชูก้าของเขา... คนของเขา
คนของคิมซอกจิน
และเมื่อชูก้าทนไม่ไหวอีกต่อไป ความหวานก็ไหลทะลักออกมา
และซอกจินก็กลืนกินมันเข้าไปจนหมดแบบไม่ให้เหลือแม้แต่หยาดหยดเดียว คนตัวขาวหายใจหอบเมื่อได้ปลดปล่อยเป็นถึงสองครั้งในวันนี้
แต่พักหายใจได้ไม่ทันไรก็โดนคนตัวใหญ่โอบอุ้มขึ้นมาแต่เขาเองก็เหนื่อยล้าจนกว่าจะโวยวายใดๆ
ชูก้าหลับตาพริ้ม ซบหน้าลงกับช่วงไหล่ของอีกฝ่ายด้วยความเหนื่อยอ่อน
ตอนนี้ คล้ายความเครียดทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกไป
เหลือไว้เพียงความสบายใจเมื่อได้อยู่ในอ้อมอกอบอุ่น ซอกจินยิ้มบาง
ก้มลงประทับจูบลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนในอ้อมกอด ก่อนจะพาอีกฝ่ายเข้าห้องน้ำไป...
เชื่อเถอะว่าถ้ามินชูก้าติดยา
คิมซอกจินก็คงเสพติดชูก้าจนโอเวอร์โดสแล้วแน่ๆ
.
.
TO BE CONTINUE...
#เสพติดชูก้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น